ความรู้

ประเภทของแบตเตอรี่รถยนต์

แบตเตอรี่รถยนต์มีหลายประเภท ซึ่งสามารถแบ่งตามเทคโนโลยีและการใช้งานหลัก ๆ ได้ดังนี้:


🔋 1. แบตเตอรี่แบบน้ำ (Flooded Lead-Acid Battery)

  • ลักษณะ: ต้องเติมน้ำกลั่นเป็นระยะ, มีฝาปิดสำหรับเปิดตรวจสอบ

  • ข้อดี: ราคาถูก หาง่าย ซ่อมบำรุงได้

  • ข้อเสีย: ต้องดูแลรักษาบ่อย เช่น เติมน้ำกลั่น, ระบายไอกรด

  • เหมาะสำหรับ: รถยนต์ทั่วไปที่ไม่มีระบบไฟฟ้าซับซ้อนมาก


🔋 2. แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง (Semi-Maintenance Free Battery)

  • ลักษณะ: เติมน้ำกลั่นได้น้อยมาก หรือแทบไม่ต้องเลย

  • ข้อดี: ดูแลง่ายกว่าแบบน้ำ แต่ยังสามารถตรวจสอบน้ำกลั่นได้

  • ข้อเสีย: อายุการใช้งานใกล้เคียงแบตเตอรี่แบบน้ำ


🔋 3. แบตเตอรี่แบบแห้ง (Maintenance Free Battery / MF Battery)

  • ลักษณะ: ปิดผนึกสนิท ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น

  • ข้อดี: สะดวก ไม่ต้องดูแล, ติดตั้งง่าย

  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบบน้ำ, เสื่อมแล้วซ่อมไม่ได้


🔋 4. แบตเตอรี่ AGM (Absorbent Glass Mat)

  • ลักษณะ: ใช้แผ่นใยแก้วดูดซับกรดไว้ ไม่มีของเหลวไหล

  • ข้อดี: ทนแรงสั่นสะเทือน, ชาร์จเร็ว, อายุใช้งานยาว

  • ข้อเสีย: ราคาสูง

  • เหมาะสำหรับ: รถยุโรป, รถไฮบริด, รถ Start-Stop


🔋 5. แบตเตอรี่ EFB (Enhanced Flooded Battery)

  • ลักษณะ: คล้ายแบบน้ำ แต่พัฒนาให้ทนทานขึ้น

  • ข้อดี: รองรับระบบ Start-Stop ได้ดีขึ้น, ทนการชาร์จ-คายประจุบ่อย

  • ข้อเสีย: ราคาอยู่ระหว่างแบบน้ำกับ AGM

  • เหมาะสำหรับ: รถที่มีระบบ Start-Stop แต่ไม่ต้องการใช้ AGM


🔋 6. แบตเตอรี่ลิเธียม (Lithium-ion Battery)

  • ลักษณะ: น้ำหนักเบา ไม่มีกรด ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นหลัก

  • ข้อดี: ประสิทธิภาพสูง น้ำหนักเบา อายุการใช้งานยาว

  • ข้อเสีย: ราคาแพงมาก

  • เหมาะสำหรับ: รถ EV หรือรถ Plug-in Hybrid


หากคุณกำลังเลือกแบตเตอรี่ ควรดูว่า:

  • รถคุณมีระบบ Start-Stop หรือไม่

  • ต้องการแบตเตอรี่ดูแลง่ายหรือไม่

  • งบประมาณที่ตั้งไว้

080-521-2555