วิธีตรวจเช็คสภาพรถยนต์เบื้องต้นด้วยตนเอง
เมื่อเราต้องเดินทางระยะไกล เราต้องตรวจเช็คสภาพรถยนต์เบื้องต้นก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง เรามาดูกันว่าต้องดำเนินการอะไรบ้าง
ตรวจเช็คหรือทำความสะอาดขั้วต่อและขั้วแบตเตอรี่
อาจจะฟังดูแปลกไปสักหน่อย แต่กุญแจสำคัญที่ทำให้รถยนต์ของคุณทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพได้ก็คือการเชื่อมต่อแบตเตอรี่ที่ดี หากการเชื่อมต่อของแบตเตอรี่ไม่ดีก็จะทำให้การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ตลอดจนถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ภายในรถทำงานได้ไม่ราบรื่นตามที่ผู้ผลิตรถยนต์ตั้งใจไว้ แต่เราสามารถสังเกตจุดนี้ได้ง่าย ๆ ด้วยตาเปล่าเมื่อต้องทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ ซึ่งคุณจะสามารถเห็นจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสิ่งสกปรกอย่างคราบขี้เกลือสีขาวบนขั้วแบตเตอรี่ แต่ในกรณีที่แย่ที่สุด คุณอาจจะเจอผงแป้งสีฟ้าที่ติดอยู่บริเวณนั้น
คุณสามารถขจัดคราบเหล่านี้ได้ด้วยการถอดขั้วแบตเตอรี่ออก โดยเริ่มจากสายไฟขั้วลบก่อน และทำความสะอาดทั้งขั้วต่อและขั้วแบตเตอรี่ด้วยน้ำยาทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่โดยเฉพาะ ใช้แปรงลวดขัดจนกว่าคราบกัดกร่อนจะหลุดไป หลังจากนั้นก็ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคราบต่าง ๆ ออกให้สะอาด ก่อนที่จะใส่อุปกรณ์ต่าง ๆ กลับไปที่เดิม เราจะต้องใช้ผ้าแห้งเช็ดขั้วต่อและขั้วแบตเตอรี่ให้หายชื้นเสียก่อน หลังจากนั้นคุณก็สามารถประกอบกลับตามเดิมและขันขั้วต่อแบตเตอรี่ให้แน่น
เปลี่ยนใบปัดน้ำฝน
หากคุณพบว่า ใบปัดน้ำฝนของคุณไม่สามารถกวาดน้ำบนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเมื่อก่อน หรือทิ้งคราบน้ำไว้บนกระจกรถของคุณ กรณีนี้คุณอาจจะต้องใช้ใบปัดน้ำฝนอันใหม่แล้วล่ะ การใช้ใบปัดน้ำฝนที่ชำรุดหรือเสื่อมสภาพเป็นอันตรายต่อการขับรถยนต์ในฤดูฝนเป็นอย่างมาก แต่คุณรู้ไหมว่า การเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนอันใหม่นั้นง่ายกว่าที่คุณคิด
การติดตั้งใบปัดน้ำฝนนั้นมีความแตกต่างกันไปในรถยนต์แต่ละรุ่น ดังนั้นคุณจะต้องทำตามขั้นตอนตามคู่มือรถยนต์ของคุณเอง อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนโดยทั่วไปสามารถทำได้โดยยกใบปัดน้ำฝนขึ้นออกจากผิวกระจกรถยนต์ก่อน จากนั้นกดแถบล็อกเพื่อเอาใบปัดน้ำฝนอันเก่าออกจากก้านปัดน้ำฝน ส่วนการใส่ใบปัดน้ำฝนอันใหม่ ก็แค่กดแถบล็อกด้านข้างแล้วใส่ใบปัดอันใหม่แทนที่เดิม ซึ่งคุณควรจะได้ยินเสียง ‘กริ๊ก’ หากติดตั้งได้สำเร็จ
การตรวจเช็คหรือเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ
แผ่นกรองอากาศเครื่องยนต์คือชิ้นส่วนสำคัญเดียวที่จะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ของเราจากสิ่งไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ซึ่งแผ่นกรองอากาศที่อุดตันจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักมากกว่าปกติ ส่งผลให้ส่วนประกอบภายในเครื่องยนต์ต่าง ๆ สึกหรอ เนื่องจากสิ่งสกปรกที่เข้าไปอุดตันแผ่นกรองอากาศนั่นเอง การตรวจสอบแผ่นกรองอากาศใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ง่าย ๆ แค่เปิดตู้แอร์ นำตัวกรองอากาศออกมาตรวจดู ดูดเศษสิ่งสกปรกภายในตู้ออก หรือเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศใหม่แทนหากจำเป็น
นอกจากนี้ ให้ตรวจดูแผ่นกรองแอร์ภายในห้องโดยสารด้วยว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนหรือไม่ ซึ่งมันจะช่วยปกป้องคุณ โดยดักกรองสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อยู่ในอากาศภายนอกรถ เช่น เขม่าและควันเสีย ก่อนที่อากาศจะไหลผ่านเข้ามาในห้องโดยสาร โดยทั่วไปมักจะพบแผ่นกรองแอร์ภายในห้องโดยสารอยู่หลังช่องเก็บของหน้ารถ ทำได้ไม่ยากเลย แค่เปิดช่องเก็บของออกมา และเลื่อนแผ่นกรองแอร์เดิมออกแล้วเปลี่ยนแผ่นใหม่
การตรวจเช็คหรือวัดระดับลมยาง
อีกหนึ่งข้อที่จะขาดไปไม่ได้ในการบำรุงรักษารถยนต์เลยก็คือ การตรวจสอบยางรถ หากไม่มีการตรวจสอบส่วนนี้ โอกาสเกิดอุบัติเหตุก็จะสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เจ้าของรถหลายคนละเลยความจริงข้อหนึ่งไปว่า สิ่งที่ช่วยให้เรายังสามารถควบคุมรถยนต์ได้นั่นก็คือ ยางรถ ทั้ง 4 เส้นที่สัมผัสกับพื้นถนนนั่นเอง เมื่อตรวจสอบยาง ก็อย่าลืมเช็กความลึกร่องดอกยาง และตรวจดูส่วนต่าง ๆ ของดอกยางเป็นประจำ จากประสบการณ์จริงของผู้ใช้รถหลายคน
ผู้ใช้รถสามารถรักษามาตรฐานการขับ (เช่น การยึดเกาะบนถนนเปียก) เมื่อร่องดอกยางมีความลึกไม่น้อยกว่า 3 มิลลิเมตรและควรเปลี่ยนยางใหม่เมื่อดอกยางหมดหรือร่องดอกยางมีความลึกน้อยกว่า 1.6 มิลลิเมตร ขณะตรวจสอบให้สังเกตว่ามีรอยเจาะ รอยยางแตกลายงา รอยนูน ยางรั่ว หรือยางบวมผิดปกติหรือยางกินในหรือไม่ ซึ่งวิธีการเช็กที่ดีที่สุดสำหรับขั้นตอนนี้ก็คือการใช้มือลูบอย่างระมัดระวังไปบนพื้นผิวของยาง เพื่อสัมผัสดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่
หากคุณพบว่ามีบางอย่างผิดปกติและไม่แน่ใจ แนะนำให้ไปที่ร้านตัวแทนจำหน่ายของเราที่อยู่ใกล้บ้านคุณ ที่นั่นคุณจะได้พบกับช่างผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ซึ่งสามารถตรวจสอบยางให้คุณ พร้อมให้คำแนะนำในกรณีที่จะต้องได้รับการแก้ไข
การตรวจเช็คเติมของเหลวในรถยนต์ที่จำเป็น
บางครั้งการตรวจสอบรถยนต์ที่สำคัญและง่ายที่สุดนั่นก็คือการตรวจสอบของเหลวทั้งหมดในรถยนต์ ซึ่งเรียกได้ว่า ของเหลวแทบจะมีบทบาทในเกือบทุกด้านของการใช้งานรถยนต์ รวมไปถึงการประหยัดน้ำมัน และการยืดอายุการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น การรักษาของเหลวในรถยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะช่วยให้เราสามารถใช้รถยนต์ได้นานยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ มีของเหลว 6 อย่างที่สำคัญ ที่ต้องตรวจสอบดังนี้:
• น้ำมันเครื่อง
• น้ำมันเบรก
• น้ำมันเกียร์
• น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
• น้ำฉีดกระจกหน้ารถ
• น้ำยาหล่อเย็น (ทั้งถังพักน้ำและหม้อน้ำ)
ถังเก็บของเหลวต่าง ๆ จะมีขีดวัดระดับของเหลวตั้งแต่ต่ำสุด (Min) ไปถึงสูงสุด (Max) บางครั้งต้องเช็ดที่ขีดวัดระดับเล็กน้อย เพื่อให้เห็นขีดวัดระดับของเหลวที่ชัดเจน แต่ถ้ามองไม่ชัดหรืออ่านยาก แนะนำให้ใช้ไฟฉายส่องจากด้านตรงข้ามของถัง ก็จะช่วยให้เห็นชัดขึ้น
อ้างอิงจาก https://www.bridgestone.co.th/th/tire-clinic/drivers-essential/basic-car-maintenance